วิเคราะห์ฟุตบอลยูโร 2020 ประจำวันอาทิตย์ที่ 4 ก.ค. 2021

บอลยูโร 2020 ยูเครน VS อังกฤษ

ยูเครน VS อังกฤษ

สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก้, กรุงโรม ประเทศอิตาลี

เวลา : 02.00 น.

ยูเครน

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ ไซปรัส 1-0 (เหย้า)

แพ้ ฮอลแลนด์ 2-3 (ยูโร 2020)

ชนะ มาซิโดเนียเหนือ 2-1 (ยูโร 2020)

แพ้ ออสเตรีย 0-1 (ยูโร 2020)

ชนะต่อเวลา สวีเดน 2-1 (ยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังเสมอ 90 นาที 1-1)

คาดว่ากุนซือ อังเดร เชฟเชนโก้ จะปรับทัพจากเกมรอบสุดท้ายที่เฉือนชนะ สวีเดน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 หลังเสมอในช่วงเวลาปกติ 90 นาที 1-1 แม้ว่าเกมนัดที่แล้วจะต้องเล่นกันจนถึง 120 นาที แต่ไม่มีปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมให้พวกตัวหลักออกสตาร์ทั้งแต่นาทีแรกตามแผนการเล่นแบบ 3-5-2 โดยผู้รักษาประตูยังคงให้ จอร์จี้ บุชชาน ยืนเฝ้าเสาต่อไป แนวรับประกอบไปด้วย เซอร์เก คริฟท์ซอฟ ยืนร่วมกับ  อิลเลีย ซาบาร์นี่ และ มีโคล่า มัตเวียนโก้ แดนกลางจะได้ โอเล็กซานเดอร์ ซูบคอฟ ฟิตกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง แต่น่าจะให้ มีโคล่า ชาปาเรนโก้ ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ เซอร์เก ซีดอร์ชุค และ ทาราส สเตปาเนนโก้ ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งจะใช้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ กับ โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ แนวรุกน่าจะดร็อป รัสลาน มาลินอฟสกี้ เพราะไม่น่าจะใช้งานผู้เล่นในตำแหน่งจอมทัพ เพื่อให้ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ กับ โรมัน ยาเรมชุค ยืนเป็นกองหน้าคู่กันเหมือนเดิม      

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : จอร์จี้ บุชชาน

แนวรับ : อิลเลีย ซาบาร์นี่, มีโคล่า มัตเวียนโก้, เซอร์เก คริฟท์ซอฟ

แดนกลาง : โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, ทาราส สเตปาเนนโก้, มีโคล่า ชาปาเรนโก้, เซอร์เก ซีดอร์ชุค โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ

แนวรุก : โรมัน ยาเรมชุค, อังเดร ยาร์โมเลนโก้

อังกฤษ

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ โรมาเนีย 1-0 (เหย้า)

ชนะ โครเอเชีย 1-0 (ยูโร 2020)

เสมอ สกอตแลนด์ 0-0 (ยูโร 2020)

ชนะ สาธารณรัฐเช็ก 1-0 (ยูโร 2020)

ชนะ เยอรมนี 2-0 (ยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย)

คาดว่ากุนซือ แกเรธ เซาธ์เกต จะปรับทัพจากเกมรอบสุดท้ายที่ชนะ เยอรมนี 2-0 และยังคงมีแดนหลังสุดแกร่งเหลือเกิน เพราะยังไม่เสียประตูในศึกยูโร 2020 แม้แต่ลูกเดียว จึงพร้อมให้พวกดาวดังลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 3-4-3 เพราะไม่มีแข้งหลักได้รับบาดเจ็บเลยด้วย เริ่มจากผู้รักษาประตูยังคงให้ จอร์แดน พิคฟอร์ด สวมบทเป็นมือหนึ่งยืนเฝ้าเสาต่อไป แนวรับไม่น่าจะเปลี่ยนไปจาก 3 ประสาน ประกอบไปด้วย แฮร์รี่ แม็คไกวร์, จอห์น สโตนส์ และพร้อมขยับ ไคล์ วอล์กเกอร์ จากตำแหน่งแบ็กขวาให้มายืนเป็นกองหลังเหมือนเดิม แดนกลางน่าจะใช้ ดีแคลน ไรซ์ คุมเกมคู่กับ คัลวิน ฟิลลิปส์ เพราะยิ่งเล่นยิ่งเข้าขารู้ใจกันเป็นอย่างดี ทำให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น่าจะเป็นเพียงตัวสอดแทรกที่มีโอกาสลุ้นแย่งตัวจริงต่อไป ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งน่าจะเป็นหน้าที่ของ ลุค ชอว์ กับ คีแรน ทริปเปียร์ แนวรุกรอชั่งใจเลือกปีกขวาว่าจะให้ใครลงสนาม ซึ่งมีตัวเลือกมากถึง 6 คนเลยทีเดียว ไล่ตั้งแต่ ฟิล โฟเด้น, จาดอน ซานโซ่, มาร์คัส แรชฟอร์ด, แจ็ค กรีลิช, บูกาโย่ ซาก้า รวมถึง เมสัน เมาท์ แต่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยังคงยึดตำแหน่งปีกซ้ายจากการยิงประตูไปแล้วถึง 3 ลูก ส่วน แฮร์รี่ เคน ยังคงยืนค้ำเป็นกองหน้าในช่วงหลังปลดล็อกยิงลูกแรกได้แล้ว      

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : จอร์แดน พิคฟอร์ด

แนวรับ : แฮร์รี่ แม็คไกวร์, จอห์น สโตนส์, ไคล์ วอล์กเกอร์

แดนกลาง : คัลวิน ฟิลลิปส์, ดีแคลน ไรซ์, ลุค ชอว์, คีแรน ทริปเปียร์

แนวรุก : ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แฮร์รี่ เคน, แจ็ค กรีลิช

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง ยูเครน vs อังกฤษ

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 7 นัด ปรากฎว่า อังกฤษ มีสถิติเหนือกว่าอยู่พอสมควร โดยเป็นฝ่ายชนะ 4 เกม เสมอ 2 เกม และแพ้เพียงแค่เกมเดียว ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก เมื่อปี 7 ปีก่อน ปรากฎว่า เสมอในบ้านของ ยูเครน 0-0 และเคยเจอกันในรอบแบ่งกลุ่มของศึกยูโร 2012 เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ปรากฎว่า อังกฤษ เป็นฝ่ายชนะ 1-0 แม้จะต้องออกแรงเล่นถึงช่วงต่อเวลาพิเศษในรอบที่แล้ว แต่ ยูเครน ยังคงพร้อมจัดเต็มอย่างแน่นอน หลังได้ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรก โดยพร้อมใช้งาน อังเดร ยาร์โมเลนโก้ กับ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ซึ่งค้าแข้งอยู่ในอังกฤษเป็นตัวชูโรง ส่วน อังกฤษ ถูกยกให้เป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ไปเลย เพราะสามารถเขี่ย เยอรมนี ตกรอบได้สำเร็จ และมีแนวรับสุดเหนียวแน่นจากการที่ยังไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว นอกจากนี้ แฮร์รี่ เคน ได้เริ่มนับหนึ่งจากการยิงลูกแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ได้แล้วด้วย คาดว่าเกมนี้ทั้งสองทีมพร้อมเปิดเกมรุกเข้าใส่กันอย่างสนุก แต่สุดท้ายน่าจะเป็น อังกฤษ เก็บชัยได้แบบไม่ง่ายนัก  

ผลที่คาด – ยูเครน เสมอ อังกฤษ 1-1 (อังกฤษ ชนะช่วงต่อเลาพิเศษ 2-1)

โปรแกรมแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020

คอมเมนต์

Leave a Comment